สารพัดสถิติจากผลงานสุดงามไส้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังแพ้ บาเยิร์น 0-1 ตกรอบแรก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก – FEATURE

สารพัดสถิติจากผลงานสุดงามไส้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังแพ้ บาเยิร์น 0-1 ตกรอบแรก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก – FEATURE

คงไม่ถือว่าผิดคาดอะไร กับการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงไปแพ้คาบ้านอีกครั้ง ต่อ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 ในเกมปิดรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนอังคาร ที่ความหวังในการดิ้นเข้ารอบอย่างปาฏิหาริย์ของพวกเขา แหลกสลายไม่มีชิ้นดี แม้กระทั่งการจบอันดับ 3 ของกลุ่มเพื่อไปต่อ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ก็ยังไม่สำเร็จ ซึ่งหลายขยุ้มตัวอักษรด้านล่างนี้ คือสารพัดสถิติสุดงามไส้ที่ได้จากทีมของ เอริค เทน ฮาก สืบเนื่องจากความล้มเหลวระลอกล่าสุดนี้

แพ้อย่างไร้รูสู้ – สถิติเมื่อจบเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ล้วนแต่เป็นตัวบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้อย่างสมควรแพ้ และสู้ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้ในแทบทุกมิติ

หนึ่งครั้งถ้วน – ตลอด 90 นาทีของเกม แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงตรงกรอบ 1 ครั้งถ้วน มาจาก ลุค ชอว์ ที่ดันขึ้นมาส่องระยะไกล เข้ามือ มานูเอล นอยเออร์

นั่นหมายความว่า ราสมุส ฮอยลุนด์, อันโตนี่, อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันเดส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หรือสำรองรายไหน ก็ล้วนแต่ "ทำไม่ได้" เลยทั้งสิ้น

12 ประตูได้ – ที่จริง ก็ไม่ถือว่าขี้เหร่สำหรับประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ในตลอด 6 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ปีนี้ โดยเป็นผลงานของ ราสมุส ฮอยลุนด์ 5, บรูโน่ แฟร์นันเดส 2, กาเซมิโร่ 2, อเลฮานโดร การ์นาโช่ 1, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ 1 และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ 1

15 ประตูเสีย – อย่างไรก็ตาม ที่ทำให้เป็นปัญหาแน่นอนว่าคือความช้ำรั่วหลังบ้าน กับการเสียรวมถึง 15 ประตู โดยเป็นการโดน โคเปนเฮเก้น ยิงรวม 4 เม็ด, บาเยิร์น 5 และ กาลาตาซาราย 6 ในการเจอกับแต่ละทีม และการเสียรวม 15 ลูก ยังนับเป็น "สถิติสูงสุด" ของตัวแทน พรีเมียร์ลีก ในหน้าประวัติศาสตร์ ชปล. สำหรับระบบรอบแบ่งกลุ่ม 1 รอบ อีกด้วย

หนแรกและหนสอง – การเสียรวม 15 ลูกดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียมากขนาดนี้ เช่นเดียวกับการแพ้ถึง 4 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. และเวลาเดียวกันก็นับเป็นครั้งที่ 2 ที่พวกเขาแพ้คาบ้านถึง 2 จาก 3 เกมรอบแบ่งกลุ่ม (2-3 กาลาตาซาราย, 0-1 บาเยิร์น) ถัดจาก 1996/97 ที่คราวนั้นแพ้ ยูเวนตุส และอีกหนึ่งตัวแทนตุรกีเหมือนกันอย่าง เฟเนร์บาห์เช่ เพียงแต่ว่าคราวนั้น ไปได้ไกลถึงรอบตัดเชือก

หนที่ 2 – นับเป็นครั้งที่ 2 เช่นกันที่ แมนยู ตกรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ด้วยการเป็นบ๊วย ถัดจากซีซั่น 2005/06 ซึ่งคราวนั้นชนะเกมเดียวเหมือนกัน แต่ก็ไม่แพ้คาบ้าน (ชนะ 1 เสมอ 2) โดยเป็นบ๊วยด้วยการมี 6 แต้ม (บียาร์เรอัล 10, เบนฟิก้า 8, ลีลล์ 6, แมนยู 6)

หนที่ 3 – นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป แมนฯ ยูไนเต็ด ตีตั๋วเข้ามาเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 7 ครั้ง ปรากฏมีมากถึง 3 ครั้งที่พวกเขาไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งมากเท่าๆ กับที่ เฟอร์กี้ ทำทีมตกรอบแรก จากการเข้าเล่น 18 ครั้งในยุคของเขา

ครึ่งต่อครึ่ง – ในปีที่ 2 ของการทำทีม เอริค เทน ฮาก ทำ แมนยู แพ้แล้วถึง 12 เกมจากโปรแกรมเตะทั้งหมด 24 นัดของซีซั่นนี้ ซึ่งมากเท่ากับที่แพ้ตลอดซีซั่นที่แล้ว…ซึ่งลงเล่นรวม 62 นัด

62 นัดของซีซั่นที่แล้ว : ชนะ 41 เสมอ 9 แพ้ 1224 นัดของซีซั่นนี้ : ชนะ 11 เสมอ 1 แพ้ 12

แย่สุดลำดับ 4 – พบว่าในตลอด 96 สโมสรของบรรดา 5 ลีกแถวหน้ายุโรป มีเพียง 3 ทีมเท่านั้นที่ "แพ้เยอะกว่า" แมนฯ ยูไนเต็ด แบบนับรวมทุกรายการ จนถึงตอนนี้

OT รีสอร์ท & สปา – แล้วจากคิวเตะเกมเหย้า 14 นัดของซีซั่นนี้ แมนยู ก็แพ้คาบ้านไปแล้วถึง 7 เกม โดยที่ 6 นัดหลังสุดหลุดแพ้ไปถึง 4

1 จาก 9 – ตลอด 9 เกมหลังสุดที่ แมนยู ลงเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งได้เพียง 1 นัดถ้วนๆ ก็คือเกมชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0 เมื่อ 24 ต.ค. นอกนั้นเสมอ 3 และแพ้ไปถึง 5 นัด

สูญขั้นต่ำ 10 ล้าน – มีการประเมินจาก ดิ แอธเลติก ว่า การตกรอบแรกงวดนี้ของ แมนยู ทำให้พวกเขาต้องสูญรายได้จากที่ควรจะมีเข้ากระเป๋า ไม่ต่ำกว่า 10.6 ล้านยูโร อันเป็นเงินรางวัลขั้นต่ำจาก ยูฟ่า สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ต่อไปได้

10.6 ล้านยูโรนั่น ยังถือเป็นความสูญเสีย "ขั้นต่ำ" ด้วย เมื่อยังต้องบวกทบขึ้นไปอีกหลายสิบล้าน หากว่าพวกเขาจะกรุยทางเข้ารอบต่อไปได้ยาวๆ โดยมีตัวอย่างเช่น แมนฯ ซิตี้ ซีซั่นก่อน ซึ่งทำเงินได้ถึงราว 130 ล้านยูโรทีเดียวจากแชมป์ยุโรปสมัยแรก

7 : 0 – แมนฯ ยูไนเต็ด จะเปิดศึก "แดงเดือด" กับ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์นี้ 17 ธ.ค. โดยไม่นานเกินฟื้นความจำ… การไปเยือน แอนฟิลด์ สองหนหลังของทีมผีแดง ได้ผลลัพธ์ "เละเทะ" กลับออกมา ด้วยการแพ้ 0-4 และ 0-7 ตามลำดับ

แล้วในสถานการณ์ที่ทั้ง กาเซมิโร่, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คริสเตียน เอริคเซ่น, เมสัน เมาท์ เจ็บอยู่ก่อนแล้ว ส่วน มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, วิกเตอร์ ลินเดลอฟ ไม่มีชื่อเมื่อวันอังคาร และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ ลุค ชอว์ เจ็บเพิ่มไปอีกระหว่างเกมล่าสุด อีกทั้งฟอร์มการเล่นและผลงานต่างก็ย่ำแย่ต่อเนื่อง

ใครจะรู้ อาจมี 7-0 ซ้ำรอย ก็…เป็น…ได้…

ขอบคุณเนื้อหาจาก 90min.com
https://www.90min.com/th/posts/feature-manchester-united-stats-after-Eliminated-from-uefa-champions-league-2023-24